ไดโว่ หรือปั๊มน้ำแบบจุ่ม เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการระบายน้ำ การเกษตร งานอุตสาหกรรม และงานก่อสร้าง ด้วยความสามารถในการดูดน้ำจากแหล่งน้ำต่าง ๆ เช่น บ่อ น้ำเสีย และแหล่งน้ำธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการสูบน้ำเพื่อใช้ในระบบชลประทาน การจัดการน้ำท่วม หรือการบำบัดน้ำเสีย ไดโว่ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหากได้รับการดูแลที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม การใช้งาน ไดโว่ โดยขาดการบำรุงรักษาอาจนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ เช่น การอุดตันของตะแกรงกรอง การสึกหรอของใบพัด หรือความเสียหายของมอเตอร์จากไฟฟ้าที่ไม่เสถียร การบำรุงรักษาไดโว่ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการเสียหายก่อนเวลาอันควร อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งาน ไดโว่ ให้ได้นานถึง 10 ปีหรือมากกว่านั้น

ทำความสะอาด ไดโว่ เป็นประจำ
ทำไมต้องทำความสะอาด ไดโว่?
ไดโว่ ต้องทำงานในน้ำซึ่งมักมีเศษวัสดุ เช่น ทราย ดิน โคลน และสิ่งสกปรกต่าง ๆ หากปล่อยให้สิ่งเหล่านี้สะสม อาจทำให้ ไดโว่ ดูดน้ำได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากตะแกรงกรองน้ำอุดตันหรือช่องทางเดินน้ำภายในเครื่องถูกปิดกั้น การที่มอเตอร์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อเอาชนะแรงต้านนี้ อาจทำให้เกิดความร้อนสะสมจนส่งผลต่ออายุการใช้งานของมอเตอร์ อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสที่ใบพัดจะเสียหายหรือชำรุดเร็วกว่าปกติ การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำความสะอาดตะแกรงกรองน้ำและใบพัด จะช่วยลดปัญหาดังกล่าวและช่วยให้ ไดโว่ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
วิธีทำความสะอาด ไดโว่
- ถอดตะแกรงกรองออกจากตัวเครื่องอย่างระมัดระวัง จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดโดยใช้แรงดันน้ำปานกลาง เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่อาจอุดตัน ควรใช้น้ำอุ่นหากมีคราบไขมันหรือสิ่งสกปรกติดแน่น และตรวจสอบตะแกรงว่ามีรอยแตกร้าวหรือความเสียหายหรือไม่ หากพบว่าตะแกรงเริ่มเสื่อมสภาพ ควรเปลี่ยนใหม่เพื่อให้ ไดโว่ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- ใช้แปรงขนนุ่มช่วยขัดสิ่งสกปรกที่เกาะติด โดยเฉพาะบริเวณที่มีตะกอนหรือคราบแข็งเกาะอยู่ ควรเลือกใช้แปรงที่มีขนแปรงอ่อนเพื่อป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนบนพื้นผิวของอุปกรณ์ และควรแปรงให้ทั่วทั้งตะแกรงกรองน้ำและใบพัดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งสกปรกอุดตันอยู่
- หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่อาจกัดกร่อนวัสดุ เช่น กรดเข้มข้นหรือสารทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรง ซึ่งอาจทำให้พื้นผิวของ ไดโว่ เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ควรเลือกใช้สารทำความสะอาดที่เป็นกลางหรือสารที่ออกแบบมาสำหรับการทำความสะอาดอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันความเสียหายและยืดอายุการใช้งานของ ไดโว่
- ถอดใบพัดออกมาอย่างระมัดระวังเพื่อตรวจสอบว่ามีเศษวัสดุติดอยู่หรือไม่ ควรใช้เครื่องมือเช่นไขควงหรือคีมหนีบเพื่อช่วยในการถอดโดยไม่ทำให้ชิ้นส่วนเสียหาย จากนั้นตรวจสอบอย่างละเอียดว่าใบพัดมีสิ่งแปลกปลอม เช่น ทราย เศษไม้ หรือสิ่งสกปรกที่อาจทำให้เครื่องทำงานผิดปกติหรือมีแรงต้านที่มากเกินไป
- เช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำสบู่และล้างออกให้ทั่วบริเวณใบพัด ควรใช้ผ้านุ่มที่ไม่เป็นขุยเพื่อป้องกันเศษฝุ่นและสิ่งสกปรกติดกลับไปในระบบ หลีกเลี่ยงการใช้สารทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่างแรงเกินไป เพราะอาจกัดกร่อนวัสดุของใบพัดได้ หลังจากล้างออกแล้ว ควรเช็ดให้แห้งสนิทก่อนประกอบกลับเข้าไป
- หากพบว่าใบพัดมีรอยแตก รอยร้าว หรือมีการสึกหรออย่างเห็นได้ชัด ควรเปลี่ยนใบพัดใหม่ทันที เพื่อป้องกันปัญหาการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจส่งผลให้มอเตอร์ทำงานหนักขึ้นและเกิดความเสียหายในระยะยาว นอกจากนี้ ควรเลือกใบพัดที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสมกับประเภทของ ไดโว่ ที่ใช้งาน เพื่อให้เครื่องทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาในอนาคต
- ใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดหรือสารทำความสะอาดที่อ่อนโยนเช็ดตัวเครื่องเพื่อขจัดคราบตะกอนและสิ่งสกปรกที่เกาะติด ควรใช้ผ้านุ่มที่ไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วน และหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนซึ่งอาจทำให้พื้นผิวของตัวเครื่องเสื่อมสภาพ นอกจากนี้ ควรเช็ดให้แห้งสนิทหลังทำความสะอาดเพื่อป้องกันการเกิดสนิม
- หลีกเลี่ยงการฉีดน้ำแรงดันสูงไปที่มอเตอร์โดยตรง เนื่องจากแรงดันน้ำอาจทำให้ซีลกันน้ำเสียหาย ทำให้น้ำซึมเข้าไปในมอเตอร์ ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือมอเตอร์เสียหาย นอกจากนี้ยังอาจทำให้ขั้วต่อสายไฟชำรุดหรือเกิดสนิมในระยะยาว ควรใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดบริเวณมอเตอร์แทน
ตรวจสอบระบบไฟฟ้า และสายไฟอยู่เสมอ
ความสำคัญของระบบไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพ
ระบบไฟฟ้าที่ไม่เสถียร เช่น ไฟกระชาก ไฟตก หรือแรงดันไฟฟ้าที่ไม่คงที่ อาจส่งผลให้มอเตอร์ของ ไดโว่เกิดความเสียหายได้ การเกิดไฟกระชากอาจทำให้ขดลวดภายในมอเตอร์ร้อนจัดและเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ในขณะที่ไฟตกบ่อย ๆ อาจทำให้มอเตอร์หมุนได้ไม่เต็มกำลังและเกิดความร้อนสะสม นอกจากนี้ การเปิด-ปิดเครื่องบ่อยครั้งโดยไม่มีระบบป้องกันไฟกระชาก อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการชำรุดของวงจรไฟฟ้าภายในมอเตอร์ ดังนั้น ควรใช้เครื่องป้องกันไฟกระชากหรือเครื่องควบคุมแรงดันไฟฟ้า (Stabilizer) เพื่อรักษาความเสถียรของระบบไฟฟ้า และช่วยให้ ไดโว่ ทำงานได้อย่างต่อเนื่องและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น
วิธีตรวจสอบระบบไฟฟ้าและสายไฟ
- ใช้มิเตอร์วัดไฟเพื่อตรวจสอบว่าแรงดันไฟฟ้าอยู่ในช่วงที่เหมาะสม โดยทั่วไปควรตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าก่อนเปิดเครื่องเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในช่วงที่ผู้ผลิตกำหนด
- หลีกเลี่ยงการใช้งานในพื้นที่ที่มีไฟฟ้าไม่เสถียร เช่น บริเวณที่มีไฟตกบ่อย หรือแรงดันไฟฟ้าผันผวน ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของมอเตอร์ หากจำเป็นควรใช้เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า (Stabilizer) หรือเครื่องป้องกันไฟกระชาก (Surge Protector) เพื่อรักษาเสถียรภาพของไฟฟ้าและยืดอายุการใช้งานของ ไดโว่
- ตรวจสอบว่าสายไฟไม่มีรอยขาด รอยไหม้ หรือรอยหนูกัด โดยเฉพาะบริเวณที่อาจโดนแรงกดทับหรือเสียดสี ซึ่งอาจทำให้ฉนวนหุ้มสายไฟเสียหายและเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
- หากพบว่าสายไฟชำรุด ควรเปลี่ยนใหม่ทันทีโดยเลือกใช้สายไฟที่มีคุณภาพสูงและเหมาะกับสภาพแวดล้อมที่ใช้งาน เพื่อป้องกันปัญหาการลัดวงจรและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
- ใช้ปลั๊กกันน้ำหากใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง และตรวจสอบว่าปลั๊กและขั้วต่อไฟฟ้ามีซีลป้องกันน้ำที่ดีเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดไฟฟ้ารั่วซึ่งอาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรง
- ตรวจสอบว่าปลั๊กไฟแน่นหนาและไม่มีรอยสนิม ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของกระแสไฟฟ้าไม่เสถียรหรือเกิดประกายไฟ หากพบคราบสนิมควรใช้กระดาษทรายหรือน้ำยาทำความสะอาดขั้วไฟฟ้าเช็ดออกเพื่อให้แน่ใจว่ามีการเชื่อมต่อที่ดี
- หลีกเลี่ยงการใช้ปลั๊กร่วมกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้กำลังไฟสูง เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น หรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้กระแสไฟฟ้ามาก เพราะอาจทำให้แรงดันไฟฟ้าตก และทำให้ ไดโว่ ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร

ใช้งาน ไดโว่ ให้เหมาะสมกับประเภทของน้ำ
ทำไมการเลือก ไดโว่ ให้เหมาะกับน้ำจึงสำคัญ?
ไดโว่ ถูกออกแบบให้ใช้งานกับน้ำประเภทต่าง ๆ เช่น **น้ำสะอาด น้ำเสีย น้ำโคลน** ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะของไหลที่แตกต่างกัน หากเลือกใช้ผิดประเภท อาจทำให้เครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เช่น การใช้ ไดโว่ น้ำสะอาดกับน้ำเสียอาจทำให้เกิดการอุดตันและลดประสิทธิภาพการทำงาน หรือการใช้ ไดโว่ น้ำเสียกับน้ำโคลนอาจทำให้มอเตอร์ทำงานหนักเกินไปและเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร การเลือก ไดโว่ ที่เหมาะสมกับประเภทของน้ำที่ต้องการใช้งานจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของเครื่อง
วิธีเลือก ไดโว่ ให้เหมาะสม
- ใช้สำหรับบ่อน้ำ บ่อเลี้ยงปลา และแทงก์เก็บน้ำ ซึ่งต้องการน้ำที่สะอาดและปราศจากสิ่งสกปรกที่อาจอุดตันระบบไหลเวียนของน้ำ
- ควรเลือก ไดโว่ ที่มีตะแกรงกรองเพื่อป้องกันเศษสิ่งสกปรก เช่น ใบไม้ เศษดิน หรือสัตว์น้ำขนาดเล็ก ที่อาจถูกดูดเข้าไปและทำให้ประสิทธิภาพของ ไดโว่ ลดลง
- ตรวจสอบว่าตะแกรงกรองสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถบำรุงรักษาและยืดอายุการใช้งานของ ไดโว่ ได้อย่างต่อเนื่อง
- เลือก ไดโว่ ที่ผลิตจากวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและไม่เป็นสนิม เพื่อให้สามารถใช้งานในระยะยาวได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
ไดโว่ น้ำเสีย
- ใช้กับบ่อบำบัดน้ำเสีย น้ำเสียจากโรงงาน และแหล่งน้ำที่มีสารแขวนลอยหรือเศษของแข็งเจือปน
- ควรเลือก ไดโว่ ที่สามารถดูดสิ่งปนเปื้อนขนาดเล็กได้โดยไม่เกิดการอุดตัน เช่น ใบพัดที่ออกแบบมาให้สามารถดูดตะกอนและสิ่งแปลกปลอมได้ดี
- ตรวจสอบว่า ไดโว่ มีระบบป้องกันการอุดตัน เช่น ตะแกรงกรองที่สามารถถอดล้างได้ง่าย และมอเตอร์ที่สามารถรองรับการทำงานในสภาวะที่มีความหนืดของน้ำสูง
- เลือกใช้ ไดโว่ ที่ทำจากวัสดุที่ทนต่อการกัดกร่อน เช่น สแตนเลส หรือวัสดุที่ทนต่อสารเคมี เพื่อให้สามารถใช้งานในบ่อบำบัดน้ำเสียได้โดยไม่เสื่อมสภาพเร็ว
ไดโว่ น้ำโคลน
- ใช้กับพื้นที่ก่อสร้าง งานระบายน้ำที่มีโคลนจำนวนมาก และสถานที่ที่มีตะกอนและเศษวัสดุแขวนลอยสูง ซึ่งต้องการ ไดโว่ ที่สามารถทำงานได้ในสภาพแวดล้อมที่หนักหน่วง
- ควรเลือก ไดโว่ ที่มีใบพัดแข็งแรงและทนทานต่อการดูดโคลน โดยเฉพาะใบพัดที่ทำจากวัสดุเช่นสแตนเลสหรือโพลียูรีเทน ซึ่งสามารถทนต่อการสึกหรอและลดการอุดตันของตะกอน
- เลือก ไดโว่ ที่มีช่องทางระบายโคลนกว้างเพื่อให้สามารถถ่ายเทน้ำและโคลนได้อย่างรวดเร็ว ลดปัญหาการอุดตันภายในตัวเครื่อง
- ตรวจสอบว่ามอเตอร์มีระบบป้องกันความร้อนสะสมและสามารถทำงานในสภาวะที่มีความหนืดของน้ำสูงได้ เพื่อป้องกันมอเตอร์ร้อนเกินไปและช่วยยืดอายุการใช้งาน
ถ้าคุณกำลังมองหา ไดโว่ ที่ iToolmart ทางร้านมีให้เลือกหลากหลายรุ่นตามวัตถุประสงค์ เช่น สูบน้ำสะอาด, น้ำเสีย, น้ำโคลน หรือใช้ในงานก่อสร้าง งานเกษตร เป็นต้น

หลีกเลี่ยงการใช้งาน ไดโว่ หนักเกินไป
การใช้งานหนักเกินไปส่งผลอย่างไร?
หากใช้ ไดโว่ ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น ดูดน้ำปริมาณมากเกินกว่ากำลังของเครื่อง หรือใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้มอเตอร์ร้อนจัดและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น นอกจากนี้ การใช้งานในน้ำที่มีเศษวัสดุแข็งจำนวนมาก เช่น ทราย หรือก้อนหินขนาดเล็ก อาจทำให้ใบพัดเสียหายและเกิดการอุดตัน ส่งผลให้ ไดโว่ ต้องทำงานหนักขึ้น การติดตั้ง ไดโว่ ในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศไม่ดีหรืออยู่ใต้น้ำลึกเกินไป อาจทำให้มอเตอร์เกิดความร้อนสะสมเร็วขึ้น ดังนั้น ควรเลือกใช้ ไดโว่ ที่เหมาะสมกับประเภทของน้ำและเงื่อนไขการทำงาน พร้อมทั้งกำหนดช่วงเวลาการใช้งานและพักเครื่องเป็นระยะ เพื่อป้องกันการสึกหรอที่เกิดจากการทำงานหนักเกินไป
วิธีป้องกันการใช้งานหนักเกินไป
- ใช้ ไดโว่ ให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำที่ต้องการสูบ โดยตรวจสอบอัตราการไหลของน้ำและเลือก ไดโว่ ที่มีความสามารถในการทำงานที่สอดคล้องกับภาระงานที่ต้องการ
- หลีกเลี่ยงการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน เนื่องจากอาจทำให้มอเตอร์ร้อนจัดและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ควรให้เครื่องได้พักเป็นระยะ และหากต้องใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน ควรเลือก ไดโว่ ที่ออกแบบมาสำหรับการทำงานหนักหรือมีระบบระบายความร้อนที่ดี
- ตรวจสอบกำลังไฟฟ้าให้เพียงพอกับ ไดโว่ ที่ใช้งาน โดยใช้มิเตอร์วัดแรงดันไฟฟ้าเพื่อตรวจสอบว่าตรงกับค่าที่ระบุในคู่มือของผู้ผลิต หลีกเลี่ยงการใช้สายไฟที่ยาวเกินไปหรือต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งอาจทำให้เกิดแรงดันไฟฟ้าตกและส่งผลให้มอเตอร์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
เก็บรักษา ไดโว่ ให้ถูกวิธีเมื่อไม่ใช้งาน
ทำไมต้องเก็บ ไดโว่ ให้ถูกวิธี?
หากไม่ได้ใช้งาน ไดโว่ เป็นเวลานาน การเก็บรักษาอย่างไม่เหมาะสมอาจทำให้เครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้นจากฝุ่น ความชื้น และสนิม การสะสมของฝุ่นอาจอุดตันช่องระบายความร้อนและส่งผลให้มอเตอร์ทำงานผิดปกติเมื่อนำกลับมาใช้ ความชื้นสามารถทำให้ส่วนประกอบไฟฟ้าเสื่อมสภาพและนำไปสู่การเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ ส่วนสนิมสามารถกัดกร่อนชิ้นส่วนโลหะ เช่น เพลาและใบพัด ทำให้เครื่องสูบน้ำทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น ควรจัดเก็บ ไดโว่ ในที่แห้งและมีการระบายอากาศที่ดี พร้อมทั้งใช้สารกันสนิมเคลือบอุปกรณ์โลหะเพื่อป้องกันการกัดกร่อน
วิธีเก็บรักษา ไดโว่
- ล้างทำความสะอาดก่อนเก็บ
- เช็ดให้แห้งเพื่อป้องกันสนิม
- เก็บในที่แห้งและไม่มีแสงแดดส่องโดยตรง
- คลุมเครื่องด้วยพลาสติกหรือผ้ากันฝุ่น
สรุป
ไดโว่ เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในการใช้งานหลายด้าน การดูแลรักษาให้ถูกต้องสามารถช่วยให้ไดโว่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นกว่า 10 ปี โดยการทำความสะอาดเป็นประจำ ตรวจสอบระบบไฟฟ้า ใช้งานให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงการใช้งานหนักเกินไป และเก็บรักษาให้ถูกวิธี เพียงปฏิบัติตาม 5 วิธีนี้ คุณก็สามารถยืดอายุการใช้งานของ ไดโว่ ให้ยาวนานและคุ้มค่าที่สุด
Loading…