เคยไหมครับ? เวลาจะเปิด ไดโว่ เพื่อสูบน้ำแต่ละที แล้วพอแตะตัว ไดโว่ ปุ๊บ รู้สึกเหมือนโดนไฟดูดแบบไม่ทันตั้งตัว? จากที่ตั้งใจจะให้น้ำไหล กลับต้องกระโดดหนีแทบไม่ทัน! จริงๆแล้วเนี่ย ไดโว่ เป็นของเครื่องมือเราใช้กันบ่อยในสวน ในบ่อ ในไร่ โดยเฉพาะใครที่ต้องทำงานกับน้ำเป็นประจำ แต่เพราะมันทำงานใกล้น้ำและไฟฟ้าพร้อมกัน ถ้าไม่ระวังให้ดี ไฟดูดอาจเกิดขึ้นได้แบบไม่ให้ตั้งตัวครับ
ในบทความนี้ผมจะพาคุณไปดูกันแบบชัดๆเลยว่าไฟดูดจาก ไดโว่ เกิดจากอะไรบ้าง? จุดไหนที่มักเป็นต้นเหตุ? และเราจะใช้งานมันยังไงให้ปลอดภัยที่สุด แบบที่ไม่ต้องมานั่งลุ้นว่า “แบบวันนี้จะโดนดูดไหมนะ?” ทุกครั้งที่เสียบปลั๊ก!
สัญญาณอันตรายที่ต้องรู้ไฟดูดจาก ไดโว่
ก่อนที่เราจะลงลึกไปถึงสาเหตุและวิธีป้องกัน ลองมาทำความเข้าใจกันก่อนครับว่า “ไฟดูดจาก ไดโว่” มันหน้าตาเป็นยังไง และทำไมมันถึงอันตรายได้มากกว่าที่คิด บางคนอาจคิดว่าแค่ช็อตจี๊ดๆ คงไม่เป็นไร แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไฟฟ้ากระแสสลับแค่ 220V จากบ้านเรานี่แหละครับ ถ้าไหลผ่านร่างกายผิดที่ผิดทาง ก็สามารถทำให้หัวใจหยุดเต้นได้เลยนะครับ ดังนั้นเราควรสังเกตสัญญาณต่างๆ ให้ดี เพื่อป้องกันไว้ก่อนจะดีกว่า!
ทำไม ไฟดูด ได้?
พูดง่ายๆ เลยก็คือ ไฟดูดคือเหตุการณ์ที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายเรานั่นแหละครับ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นตอนที่เราเผลอไปแตะอะไรบางอย่างที่มันมีไฟรั่วอยู่ เช่น ไดโว่ ที่เสียบปลั๊กไว้ แต่ไม่มีระบบสายดิน หรือฉนวนหุ้มสายไฟมันกรอบ แตก หรือขาด พอเราสัมผัสเข้าไปก็เลยกลายเป็นตัวนำไฟให้ไหลผ่านร่างกายเราไปแบบไม่ทันตั้งตัว!
ไฟดูดจาก ไดโว่ เป็นเรื่องใกล้ตัว
- ไดโว่ ส่วนใหญ่มักจะใช้งานในที่เปียกแฉะ น้ำขัง หรือบางทีก็ต้องจุ่มลงไปในบ่อน้ำกันตรง ๆ เลย แบบนี้แหละครับที่มันเสี่ยง เพราะน้ำกับไฟฟ้านี่เป็นของไม่ถูกกันอยู่แล้ว
- เครื่องส่วนใหญ่ใช้ไฟบ้าน 220V ซึ่งถ้าเกิดไฟรั่วขึ้นมานิดเดียว ก็มีโอกาสถึงตายได้เลยนะครับ ไม่ใช่แค่จี๊ด ๆ เล่น ๆ
- หลายคนใช้แบบไม่รู้เลยว่าเครื่องเริ่มมีปัญหาแล้ว พอรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มือชา ขาสั่น เพราะโดนเข้าให้แล้วเต็ม ๆ!

สาเหตุหลักที่ทำให้ ไดโว่ ไฟดูด
1. ฉนวนสายไฟชำรุดหรือเปลือย
ลองนึกภาพว่าคุณใช้ ไดโว่ อยู่ดี ๆ แล้วมีสายไฟเก่า ๆ ที่มันเริ่มกรอบหรือขาด แถมบางบ้านอาจมีหนูมากัดสายเล่นอีกต่างหาก! ถ้าสายไฟเปลือยแบบนี้ สายทองแดงด้านในจะสัมผัสกับน้ำหรือโครงเครื่องทันที และนั่นแหละครับ ไฟก็จะรั่วออกมาโดยที่เราไม่รู้ตัวเลย พอไปแตะเข้าเต็ม ๆ ก็อาจโดนดูดได้แบบไม่ทันตั้งหลัก
วิธีเช็ก: ก่อนใช้งาน ลองหยิบสายไฟขึ้นมาดูใกล้ ๆ เลยครับว่ามีรอยขาด ขุย ดำ ๆ หรือคราบน้ำอะไรติดอยู่บ้างหรือเปล่า เพราะบางทีพวกนี้มองเผิน ๆ อาจไม่เห็น แต่ถ้าเจอแล้วอย่ารอช้า เปลี่ยนสายใหม่ไปเลยดีกว่า ไม่คุ้มเสี่ยงโดนดูดแน่นอนครับ
2. เครื่องไม่มีสายดิน (Ground)
ในหลายบ้านยังไม่มีระบบสายดินที่ได้มาตรฐาน หรือเต้ารับที่ใช้ก็ไม่มีขา Ground แบบที่ควรจะมี ซึ่งพอไม่มีตัวช่วยระบายกระแสไฟฟ้าเวลามีไฟรั่ว ไฟก็เลยไหลตรงมาที่ตัวเราแบบไม่มีอะไรขวางไว้เลยครับ แบบนี้แหละที่อันตราย เพราะมันไม่มีตัวช่วยตัดวงจรก่อนจะสายเกินไป
วิธีป้องกัน: ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้ใช้เต้ารับแบบมีสายดินครับ เพื่อให้กระแสไฟฟ้าที่รั่วไหลสามารถระบายลงดินได้ ไม่มาไหลผ่านตัวเรา และอีกอย่างที่ช่วยได้ดีมากคือ RCD หรือ ELCB ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่คอยตรวจจับไฟรั่ว ถ้าเกิดความผิดปกติ มันจะตัดไฟทันที แบบไม่ต้องรอให้เรารู้สึกจี๊ดก่อนถึงจะหยุดทำงาน แบบนี้ปลอดภัยกว่าเยอะเลยครับ
3. ตัวเครื่องรั่ว หรือมีน้ำเข้าไปในมอเตอร์
ถ้าเครื่องเคยหล่นแรง ๆ หรือใช้งานมานานจนซีลกันน้ำเริ่มเสื่อม น้ำอาจแอบซึมเข้าไปในตัวมอเตอร์ได้ครับ ซึ่งเป็นจุดที่ไม่ควรเปียกเลย เพราะเมื่อไหร่ที่น้ำเข้าไปปุ๊บ ไฟก็อาจลัดวงจรได้ทันที แล้วกระแสไฟจะวิ่งมาที่โครงเครื่อง ถ้ามีใครไปแตะตอนนั้นพอดี โดนดูดแน่นอนครับ แบบไม่ต้องเดาเลย
วิธีเช็ก: หลังใช้งานเสร็จแล้ว ลองใช้มือลูบเครื่องเบา ๆ ด้วยมือที่แห้งสนิทก่อนนะครับ อย่าเพิ่งรีบเอามือเปียกไปจับเด็ดขาด หรือถ้ามีไขควงเช็คไฟแบบไม่สัมผัสอยู่ ก็ลองสแกนรอบ ๆ ตัวเครื่องดูว่าไฟรั่วออกมาหรือเปล่า วิธีนี้ง่ายและปลอดภัย เหมาะมากสำหรับคนที่อยากเช็กเองเบื้องต้นก่อนเรียกช่าง
4. ใช้งานในพื้นที่น้ำท่วม ไม่มีระบบป้องกัน
บางคนเผลอเสียบไดโว่ทิ้งไว้ในน้ำท่วม หรือน้ำขังรอบบ้าน แล้วก็ปล่อยให้มันทำงานไปเรื่อย ๆ โดยไม่ทันได้คิดว่าพื้นที่แบบนี้แหละคือจุดเสี่ยงอันดับหนึ่ง เพราะน้ำกับไฟไม่ใช่เพื่อนกันครับ! ถ้าไม่มีระบบตัดไฟรั่วหรืออุปกรณ์ป้องกันอะไรเลย โอกาสที่ไฟจะไหลย้อนเข้าร่างกายเราได้แบบไม่รู้ตัวยิ่งสูงขึ้นไปอีก
5. สายพ่วงคุณภาพต่ำ ไม่มีฉนวนกันน้ำ
บางคนใช้สายพ่วงแบบทั่วไปที่เอาไว้เสียบพัดลมหรือชาร์จมือถือ มาต่อกับไดโว่ที่ใช้งานกลางแจ้ง พอฝนตกหรือพื้นที่เปียก น้ำก็อาจซึมเข้าไปในขั้วปลั๊กได้ง่าย ๆ เพราะสายพ่วงพวกนี้ไม่ได้ออกแบบมาให้กันน้ำหรือรับแรงดันไฟสูงแบบใช้งานหนัก ๆ สุดท้ายก็เสี่ยงโดนไฟดูดแบบไม่รู้ตัวครับ

วิธีใช้ ไดโว่ อย่างปลอดภัย ห่างไกลไฟดูด
1. ใช้เครื่องที่มีระบบป้องกันไฟรั่วในตัว
พยายามเลือกไดโว่ที่ออกแบบมาปลอดภัยตั้งแต่แรกเลยครับ อย่างพวกที่มีฉนวน 2 ชั้น หรือผ่านมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX8 จะช่วยป้องกันน้ำเข้าเครื่องได้ดี และถ้ามีระบบตัดไฟอัตโนมัติในตัวด้วยยิ่งดีใหญ่ เพราะถ้าเกิดไฟรั่วเมื่อไหร่ มันจะตัดวงจรทันที ไม่ปล่อยให้เรามีโอกาสโดนดูดแบบไม่รู้ตัวครับ
2. เสียบกับปลั๊กที่มีสายดิน และมี RCD
RCD หรือเบรกเกอร์ตัดไฟรั่ว เจ้าอุปกรณ์ตัวนี้แหละครับคือฮีโร่ตัวจริง เพราะมันจะคอยตรวจจับว่ามีไฟไหลผิดปกติหรือเปล่า ถ้าเจอปุ๊บ มันจะตัดวงจรไฟทันที ไม่ปล่อยให้ไหลต่อไปถึงตัวเรา แบบนี้แหละครับที่ช่วยให้เราปลอดภัยขึ้นเยอะ ใช้งานไดโว่ได้แบบสบายใจมากขึ้น
3. ไม่แตะเครื่องด้วยมือเปียก
ต่อให้เครื่องจะดีแค่ไหน ปลอดภัยแค่ไหน แต่ถ้าคุณเผลอไปแตะด้วยมือเปียกเมื่อไหร่ บอกเลยครับว่าเสี่ยงทันที เพราะแค่น้ำเล็กน้อยบนมือก็สามารถกลายเป็นทางนำไฟฟ้าได้ โดยเฉพาะถ้าเครื่องมีไฟรั่วนิด ๆ อยู่แล้ว อาจโดนดูดแบบไม่ทันได้ตั้งตัวเลยก็ได้ครับ
4. หมั่นตรวจสายไฟและปลั๊กทุกครั้งก่อนใช้
ถ้าใช้ไดโว่นอกบ้าน หรือในพื้นที่ที่มีน้ำเจิ่งนองอยู่ตลอด เช่นสวนหลังบ้าน หรือบ่อเลี้ยงปลา แนะนำเลยครับว่าอย่าเสียบปลั๊กทันที ควรหยิบสายไฟขึ้นมาดูให้ครบทุกจุด ทั้งสาย ปลั๊ก และขั้วต่อว่ามีรอยรั่ว ขาด หรือเปียกน้ำอยู่หรือเปล่า เพราะแค่จุดเล็ก ๆ ที่มองข้ามไปก็อาจกลายเป็นจุดที่ทำให้ไฟรั่วและดูดเราได้แบบไม่รู้ตัวเลยครับ
5. ไม่วางสายไฟลากผ่านน้ำเด็ดขาด
ถ้าจำเป็นต้องใช้สายยาวจริง ๆ แนะนำให้พาดไว้บนที่สูง หรือหาทางยกสายให้พ้นพื้นน้ำครับ อย่าปล่อยให้สายไฟนอนแช่น้ำเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้ฉนวนเสื่อมเร็วแล้ว ยังเพิ่มโอกาสไฟรั่วแบบเงียบ ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัวอีกด้วย ถ้าให้ดีใช้รางยกสายหรือวางบนแท่นไม้ก็ช่วยลดความเสี่ยงไปได้เยอะเลยครับ
เคล็ดลับเพิ่มเติมจากช่างมือโปร
- ถ้าคุณต้องใช้ไดโว่อยู่ในพื้นที่เปียกเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นสวน บ่อปลา หรือพื้นโรงงานที่เปียกอยู่ตลอดเวลา แนะนำเลยครับให้ลงทุนติดตั้งระบบตัดไฟรั่วถาวรที่แผงเบรกเกอร์ไปเลย จะได้ไม่ต้องลุ้นทุกครั้งที่ใช้งาน
- อีกหนึ่งตัวช่วยง่าย ๆ คือไขควงเช็คไฟแบบ Non-Contact ใช้จ่อ ๆ ตรวจรอบตัวเครื่องก่อนแตะจริง ช่วยให้เรารู้ก่อนว่าเครื่องปลอดภัยหรือยัง
- และถ้าเคยโดนไฟดูดจากเครื่องไหนมาก่อน ขอร้องเลยครับ อย่าใช้ซ้ำเด็ดขาดจนกว่าจะให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็กให้ละเอียด เพราะอย่าลืมนะครับ ไฟฟ้าครั้งเดียวก็อันตรายถึงชีวิตได้
สรุป
ไดโว่ ไฟดูดไม่ใช่เรื่องไกลตัวครับ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ทำงานใต้น้ำหรือใกล้น้ำอยู่ตลอดเวลา ถ้าขาดการดูแล หรือเลือกใช้อุปกรณ์ผิดประเภท ก็เสี่ยงอันตรายถึงชีวิตได้เลย การใช้งานไดโว่อย่างปลอดภัย ไม่ใช่แค่เสียบปลั๊กแล้วจบ แต่ต้องเริ่มจากการเลือกเครื่องที่ปลอดภัย ใช้ร่วมกับระบบไฟที่ได้มาตรฐาน และหมั่นตรวจสอบอยู่เสมอ จำไว้เสมอครับว่า “ไฟฟ้าไม่เคยปรานีใคร” ใช้ไดโว่ให้ปลอดภัยไว้ก่อน ดีกว่าเสี่ยงเสียใจทีหลังครับ
Loading…